ดัชนีผลผลิตที่ยั่งยืน (Sustainable Productivity Index: SPI)
เป็นการผสมผสานหลักการของความยั่งยืนเข้ากับการวัดผลการผลิต โดยการวัดประสิทธิภาพการผลิตแบบดั้งเดิมจะมุ่งเน้นไปที่ผลผลิตทางเศรษฐกิจเป็นหลัก และละเลยมิติด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม ดังนั้นการพัฒนา SPI จึงมีเป้าหมายที่จะจัดให้มีมาตรการที่ครอบคลุมมากขึ้นโดยพิจารณาถึงประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจควบคู่กับผลกระทบต่อระบบนิเวศและความเป็นอยู่ที่ดีของสังคม รวมถึงการบริหารจัดการที่ยั่งยืน (Tripple Bottom Line: People, Profit และ Planet) และมีความสามารถในการปรับตัวเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงโดยยังมีผลิตภาพเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนที่สำคัญ
กรอบแนวคิดเกี่ยวกับการเพิ่มผลิตภาพอย่างยั่งยืน
(Sustainable Productivity Framework)
แบบประเมิน Sustainable Productivity Index: SPI ประกอบด้วย
ด้าน Productivity เป็นการประเมินความพร้อมด้านผลิตภาพขององค์กร
ด้าน Agility เป็นการประเมินความพร้อมในด้านความคล่องตัวและยืดหยุ่นขององค์กร
ด้าน Innovation เป็นการประเมินความพร้อมในด้านนวัตกรรมขององค์กร
การวิเคราะห์ผลตามกรอบแนวคิด Sustainable Productivity
- ด้านความสำคัญต่อองค์กร (Importance) เป็นการประเมินเพื่อพิจารณาว่าองค์กรให้ความสำคัญกับปัจจัยด้านต่าง ๆ มากน้อยเพียงไร ซึ่งจะช่วยให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและเป้าหมายในการดำเนินงานขององค์กร
- ด้านผลการดำเนินการขององค์กร (Performance) เป็นการวัดความสามารถในการดำเนินการขององค์กรในแต่ละปัจจัยว่าทำได้ดีเพียงไร หากปัจจัยใดที่องค์กรยังดำเนินการได้ไม่ดีก็ถือเป็นโอกาสให้องค์กร หาแนวทางในการพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น
- การวิเคราะห์ Importance-Performance Matrix เป็นการวิเคราะห์เพื่อหาจุดปรับปรุงให้องค์กร โดยหากปัจจัยใดที่องค์กรให้ความสำคัญ (Importance) มีระดับความสำคัญต่อองค์กร “สูง” ในขณะที่ผลการดำเนินการขององค์กรอยู่ในระดับ “ต่ำ” แสดงให้เห็นว่าองค์กรจำเป็นต้องหาแนวทางในการพัฒนาและปรับปรุงประเด็นนั้น ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น